EP.19 วันหยุดคือเวลาของอีเว้นท์อย่าลืมเซฟก่อนล่ะ- -+ ที่ราชอาณาจักรฟิลิกส์เดินออกมาที่หน้าวังหลังจากจบเรื่องของไฮเนสการที่รัชทายาททำเรื่องโค่นราชบัลลังค์ ถือเป็นความเสื่อมเสียอย่างใหญ่หลวงของราชวงศ์อุปราชสิ้นชีพด้วยเงื้อมมือของเบลด ซีโร่ส่วนไฮเนสหนีออกนอกราชอาณาจักรไปที่โคโลนี่ส่วนตัวของราชวงศ์ซันเซสทุกอย่างถูกจัดการเงียบๆด้วยฝีมือของขุนนางและคณะราชของอาบรัสซาส ชัดเจนทั้งหลักฐานและการกระทำ ว่าการสร้างเรื่องฆ่าวานิลลาเป็นฝีมือของพวกไฮเนสแต่ถึงจะพิสูจน์ตัวเองแล้ว แต่วานิลลาก็ยังไม่มีท่าทีอ่อนลงกับฟิลิกส์เลยฟิลิกส์มองลูกสาวเล่นอยู่กับชิกิ และลูกแมวตัวเล็กสีขาว หญิงสาวมองดูฟิลิกส์ที่ยืนมองดูตนอยู่หน้าซุ้มโดยไม่เอ่ยอะไรวานิลลาลุกขึ้นแล้วค้อมหัวให้อย่างให้เกียรติ เธอหลีกไปทางซ้ายของโต๊ะหินอ่อนและเอ่ยเชิญอย่างสุภาพ “เชิญเสด็จขึ้นมาก่อนสิเพคะ...” “.........” ฟิลิกส์ยิ้มให้ลูกสาวและค่อยๆเดินขึ้นมา และนั่งที่ฝั่งตรงข้ามวานิลลามือของฟิลิกส์ผายเชิญให้นั่ง วานิลลาย่อเข่าเคารพและนั่งลงช้าๆ “เด็กคนนี้... ลูกไปเอามาจากไหน?” “อิสะกะ...องครักษ์ของหม่อมชั้น...เค้า...” “พ่อรู้ เค้าไม่ใช่องครักษ์ลูกเองก็ไม่อยากให้เค้าเป็น...” “........” “พิ่ออาจจะไม่มีคุณสมบัติของคนเป็นพ่อแต่ลูกจะตอบพ่อได้มั๊ย?สำหรับลูก...เค้าคืออะไร?” “.......” “พ่อจะไม่คาดคั้น หากลูกไม่ประสงค์จะตอบ...” “คือคน...ที่พาลูกขึ้นมาพบชีวิตพาหม่อมชั้นไปหาจุดประสงค์ของชีวิต เป็น...คนสำคัญ...” “ลูกรู้สึกอย่างไรกับเค้า?” “ไยตรัสถามเช่นนั้นเพคะ?” ใบหน้าแดงเรื่อของวานิลลาทำให้ฟิลิกส์แน่ใจ แต่จะเป็นการไม่ควรหากจะไปคาดคั้นความรู้สึกของลูกสาว บัดนี้ เค้าจะไม่บงการชีวิตของเธอแต่ด้วยความเป็นพ่อ เค้าพร้อมจะสนับสนุนลูกของตัวเองเสมอ วานิลลามองฟิลิกส์ที่ยกแก้วชาที่ตนรินให้ขึ้นจิบ และพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ฟิลิกส์วางแก้วชาลงก่อนและพูดออกมา “พ่อ... ไม่มีอะไรจะพูดให้ลูกคลายความโกรธแต่พ่อก็อยากจะพูดมัน... พ่อ...” “...ช่างมันเถอะเพคะ... พระองค์” “...........” “หม่อมชั้นยังมีชีวิตอยู่ตรงนี้...แม้จะตายไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่หม่อมชั้นก็อยู่ตรงนี้...” ฟิลิกส์ก้มลงปล่อยน้ำตาสำนึกผิดจากหัวใจออกมาให้พรั่งพรูบนใบหน้าคำพูดใดๆดูจะออกมายากเย็น และเรียบเรียงไม่ได้ฟิลิกส์เงยหน้าขึ้นมาและกุมมือลูกสาวเบาๆ ดวงตานี้ บัดนี้ไม่กร้านชาดวงตาของแก้วตาของเค้าดูใสวาวและบริสุทธิ์ งดงามเหมือนแม่ของเธอ “พ่อเคยพร่ำบอกเจ้าอาจจะรำคาญมัน แต่ว่า... เจ้า ช่างเหมือนแม่...” “หม่อมชั้นจำได้เพคะ...เสด็จพ่อ” วานิลลากุมมือของฟิลิกส์ที่ลูบเรือนแก้มของเธอ อยู่เบาๆ ฟิลิกส์รู้สึกเหมือนบัดนี้ โขดหินหนักชันได้แหลกทลายลงรอยยิ้มอย่างปิติยินดีที่ได้ลูกสาวคืนไม่อาจจะซุกซ่อนได้ฟิลิกส์บรรจงจูบเข้าที่หน้าผากของแก้วตาอย่างแสนรัก เธอยอมมอบโอกาสของพ่อให้เค้า เค้าได้รับโอกาสที่จะชดใช้ความผิดชั่วชีวิต “พ่อจะเป็นพลังให้ลูก...เจ้าหญิงของพ่อ...” ในเงามืดของอุทยานปีศาจหนุ่มเฝ้ามองภาพที่น่าประทับใจนิ่งๆและค่อยๆเดินหายไปชิกิและยูเมะกระโดดผลุงลงมาจากโต๊ะหินอ่อน และตรงหายเข้าไปในป่าวานิลลามองทั้งสองหายไปในป่าอย่างประหลาดใจ เงาป่าที่มืดสงบรมรื่น ลำธารใสในอุทยานไหลฉ่ำเย็นอิสะกะถอดรองเท้าลงไปเดินเล่นในน้ำ พ่อ...แม่ ครอบครัวงั้นเหรอ?... คงต้องอดทนจนกว่าสงครามจะจบลงสินะ... เสียงของชิกิและยูเมะเรียกสายตาของเค้าไปหาเจ้ากลมดิ๊กกลิ้งมาและเด้งขึ้นลงต่อหน้าเค้า อิสะกะเดินไปนั่งที่ริมธารยูเมะเดินขึ้นมาหนุนนอนบนตักอิสะกะที่เหงาหงอยอย่างปลอบใจชิกิขึ้นมานิ่งบนหัวตามประสา **เหงาเหรอ? เหงาเหรอ?** “รู้มากจริงนะ ชิกิ...” **แย่จัง แย่จัง** เสียงลำธารยังส่งเสียงไหลเบาๆตลอดเวลา เงาจากแดดผสมกับความรมรื่นของอุทยานทำให้อิสะกะยึดที่ตรงนี้เป็นที่พักชั่วคราวไม่ไปร่วมเที่ยวเล่นในราชอาณาจักรกับจินยอง เสื้อนอกของเค้าใช้แทนหมอนหนุนมองดูใบไม้ใหวไปมา อำนาจคือบัญชาที่เราจะใช้มันไปสู่จุดสูงสุดแห่งการปกครอง!! เรา!!จะเหนือกว่าRuzon! “ทำไม...ถึงกระหายอำนาจกันนัก...” แซ่ก!!! พุ่มไม้ใหวสั่นแรงกว่าจะเป็นสัตว์เล้กๆอิสะกะอุ้มยูเมะขึ้นและสะบัดปืนขึ้นจ่อไปในความมืด ดวงตาคมเย็นกวาดหาสิ่งผิดปกติ “ออกมา...” เสียงสั่งเย็นๆออกคำสั่งให้ใครบางคนที่แฝงในเงาไม้ค่อยๆชะโงกหน้าออกมาสาวน้อยผมดำทวินเทลล์ออกมาจากเงาไม้งงๆ “อ๊ะ!? พี่ชาย? มาทำอะไรในนี้อ่ะ? หยา~... ถือปืนด้วย” อิสะกะมองอย่างเบาใจและลดปืนลง เด็กสาวเดินเข้าหาช้าๆผ้าเช็ดหน้าของอิสะกะคว้าออกมาลูบเช็ดแก้มของมิอันที่มอมแมมเบาๆไปซนอะไรมาล่ะเนี่ย “ทำไมมีสภาพงี้ล่ะ?” มิอันชูแขนขาขึ้นดู และถึงบางอ้อเธอหัวเราะออกมาบางๆและชูบางอย่างออกมาให้ดู “หญ้า? ไม่...สมุนไพร?” “เกือบตอบผิดไปแล้ว ถูกต้องค่า^w^” “ใส่เสื้อผ้าอย่างนี้ปีนต้นไม่เนี่ยนะ=///=;;” อิสะกะมองมิอันที่ใส่กระโปรงมินิสเกิร์ตตัวสั้นสีดำพลางกลืนน้ำลายเอื้อก เสื้อสายเดี่ยวลายทางสีดำนั่นปลิ้นออกมาจนเผยให้เห็นหน้าท้องนวลเนียนชวนเลือดลมแปรปรวน “อ๊า~♥ พี่ชาย ลา~มก” “ช...ใช่ที่ไหนเล่า!!?” “จ้องซะขนาดนั้น ขอเค้าดูดีๆอาจจะให้นะ” อิสะกะมองเด็กสาสวแก่แดดและถอนหายใจออกมาอย่างเชื่อในท่าทีของเธอเลยมิอันเดินมาริมธารห่างจากอิสะกะนิดหน่อย เธอนั่งลงและถอดถุงเท้ายาวถึงต้นขาออกอิสะกะแทบจะหันหนีไม่ทัน เกือบเห็นอะไรแว้บๆแล้ว=O=/// มิอันจุ่มเท้าลงไปในลำธารสายน้ำเย็นฉ่ำทำให้รู้สึกดีไม่น้อย “หื้ม~ เย็นจัง><///” อิสะกะยิ้มขึ้นมาและย่อตัวลงนั่งห่างๆมิอัน เด็กสาวเห็นว่าเข้าแผนเลยเขยิบเข้าใกล้อิสะกะเข้าไปอีกนิดและอิงใหล่กว้างของเค้าช้าๆ “ขอเค้าอยู่แบบนี้ซักพักนะ...” อิสะกะที่กำลังจะแหวออกมาเจอน้ำเสียงเว้าขอของมิอันก็ใจอ่อน “อีเว้นท์จูบ พี่วานิลลาก็ได้ไปแล้วเต้นรำก็คุณแพร มิอันยังไม่ได้อีเว้นท์อะไรเลย...” “อีเว้นท์!? แพรเกี่ยวอะไรด้วย=[]=///” มิอันชำเลืองมองอิสะกะกลายๆ นี่คงจะไม่รู้จริงๆสิท่า ก็อย่างว่าผู้ชายมักจะซื่อบื้อเสมอ กับผู้หญิงที่มีใจให้ตัวเอง มิอันเลือกไม่ตอบปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าตัวเองดีกว่า “........” “.........” ความเงียบเกิดขึ้นมีเพียงเสียงน้ำไหลเบาๆเท่านั้นที่ส่งเสียงตลอดเวลาอิสะกะเริ่มใจลอยและคิดถึงครอบครัวต่อ มิอันที่แกล้งหลับมองดูใบหน้าที่เหงาหงอยของอิสะกะที่ฉายบนเงาน้ำคนที่ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องสิ่งสำคัญของคนอื่น กลับเป็นฝ่ายโหยหาซะเอง “.... ถ้าคิดถึง ทำไมไม่ไปหาล่ะรู้ที่อยู่จากกัปตันแล้วนี่...” อิสะกะเลื่อนดวงตาลงมามองเด็กสาวที่อิงไหล่อยู่ ดวงตาดำแกมแดงของมิอันจ้องมองอิสะกะอย่างหวังคำตอบแต่ชายหนุ่มกลับเงียบไม่ตอบ ดวงตาทอดยาวไปที่ท้องฟ้าเบื้องบนที่ส่องแสงแดดอ่อนๆ “น่าเศร้านะคะ... รู้ว่ามีแต่จับต้องหรือปกป้องไม่ได้” “...ชั้นกำลังปกป้องพวกเค้า” “พี่ชายเผชิญกับการพรากจากมาตลอดก็เลยพยายามเพื่อไม่ให้ใครสูญเสียแบบตัวเอง...” “เหลือเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ที่Ruzonยังไม่ได้พรากมันไปจากชั้น...ชั้นจะปกป้องสิ่งเหล่านั้นจนถึงที่สุด... แม้จะต้องกลายเป็นอะไรไปก็ตาม...” มือบางๆของมิอันเลื่อนมาเคลียแก้มอิสะกะเบาๆและหยิบเอาเส้นผมที่ยุ่งบังตาออก “พี่ชายน่ะ...ไม่ใช่อาวุธที่อำมหิตอย่างที่ใครเข้าใจ...” “.......” “ทำต่อไปเถอะค่ะ... ทำมันให้ดีที่สุดอย่าหลงไปกับความโกรธแค้นมากเกินไป ถึงมันจะเป็นพลัง แต่ก็แค่ครั้งคราวไม่อาจผลักดันเราได้ตลอด” อิสะกะมองเด็กสาวที่พูดเรียกเข้าขึ้นมา และแล้วรอยยิ้มจางๆก็ผุดขึ้นมาอิสะกะยื่นมือไปลูบหัวของมิอันเบาๆ เธอทำท่าตกใจเล็กน้อยแต่ก็เคลิ้มไปกับสัมผัสที่อ่อนโยนจากมือเค้าจนได้ “พูดได้ดี...” “พี่ชาย...ที่เสียไปเป็นคนบอก” “เค้าเป็นพี่ที่ดีนะ...” “ทุกคนที่ดูแลชั้นมาก็ดีนะถึงจะขาดๆเกินๆไปมั่ง^^” “ขอบคุณนะมิอัน...” “ไม่หรอก เค้าไม่ได้ทำอะไรเท่าใหร่เลย(. .)///” มือของอิสะกะยื่นไปพยุงมิอันให้ลุกขึ้นสำหรับเค้าที่จิตใจไม่ได้เข้มแข็งอะไร แค่ใครซักคนที่นำทางให้มีแรงสู้เค้าก็จะลุกขึ้นมาและไปได้อีก มิอันยืนมองชายหนุ่มที่มีสีหน้าที่ดีกว่าเดิมเดินออกไปจากสวนร่มไม้ด้วยใจที่เต้นเบาๆ และออกเดินตามเค้าไปโดยมีชิกิและยูเมะเดินตาม
-----------------------------------------------------------------**Next part. หลังจากจบม.6มาสองปี!! ผมก็ได้บรรจุลงงานประจำเเล้วคร้าบบบบบTOT/// อาจจะมีงานเยอะขึ้น เเละก็เหนื่อยมากขึ้น เเต่ก็ไม่ท้อเด็ดขาดครับ^w^+ สำหรับนิยาย ไม่ต้องห่วงครับ ไม่ทิ้งผู้อ่านที่น่ารักเเละเเสนดีไปใหนเเน่ เจอกันตอนต่อไปเหมือนเดิมจ้า เจออีเว้นท์อย่าลืมเซฟนะ>w<///
|